ผมเป็นคนชอบทาน ความอ้วนที่ได้ ไม่ใช่มาจากโชคช่วยนะครับ
ก่อนที่จะอวบอ้วนเกินพิกัดขนาดนี้ผมต้องสะสมบารมี(จากการกิน) มานักต่อนักแล้ว
และหนึ่งในนั้นคือ อาหารเวียดนาม
ผมไม่ใช่คนนิยมกินแบบตะลอนบุเรงไปสุดหล้าฟ้าเขียวแบบนักชิมมืออาชีพ
ผมชอบความสะดวก ที่ไหนไปง่ายหรือมีคนพาไป ผมถึงจะไปลิ้มชิ้มรสชาติ
บางที่อร่อยจนน้ำตาไหล แต่บางที่ก็ไม่ไหวไม่กลับไปอีก อะไรดีผมก็จะบอกว่าดีนะครับ
สำหรับรีวิววันนี้
จะเป็นแบบ Mini Review เนื่องจากผมไม่ได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่าจะรีวิวหน้าร้าน
โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ถนัดเรื่องการตกแต่งหรือสถาปัตยกรรม ร้านไหนสวย ก็คือสวย
ร้านไหนไม่สวย ก็ไมสวย แต่ไม่สามารถบรรยายได้ว่าเขาใช้อะไรมาตกแต่งจนมันดูไม่สวย
นอกเรื่องอีกละ...ร้านที่เราจะรีวิวันนี้ ได้แก่ La
Maison Vietnamese Cuisine โดยเกณฑ์การให้คะแนนได้แก่ รสชาติอาหาร การบริการ
บรรยากาศของร้านและความคุ้มค่า คะแนนที่ได้ตัดสินจากความชืนชอบส่วนตัวเท่านั้น
ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ในกรณีที่มีนักรีวิวเจ้าอื่นได้ให้คะแนนไว้ เนื่องจากลิ้นและความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน
ผมเดินทางจากถ.ลาดพร้าว ซ.18
นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เพื่อนมา ซอกแซกออกมาจนมาถึงร้านที่อยู่ในซอย 20
ร้านจะแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนคาเฟ่ ที่มีบริการเครื่องดื่มต่างๆสำหรับคอกาแฟ
และอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นร้านอาหารเวียตนาม บรรยากาศในร้านไม่ใหญ่มาก คุมโทนออกสีครีมๆหม่นๆ
(ภาพจากความทรงจำ) พอไปนั่งก็มีเมนูมาให้สำรวจรายการอาหาร
พนักงานมายืนรอเลย เหมือนกดดันลูกค้า จุดนี้อยากจะติงสำหรับร้านอาหารทั้งหลายว่า
เวลาให้เมนูลูกค้า ถ้ามาสองคน ควรให้สองเล่ม แต่ที่ร้านให้มาแค่เล่มเดียว ดูลำบาก
ตัดคะแนนร้านตรงนี้ไปแล้วหนึ่งส่วน และเมื่อให้เมนูอาหารแล้ว
พนักงานควรให้เวลาลูกค้า 3-5 นาที หรือรอให้ลูกค้าเรียกรับรายการอาหาร
ดีกว่าจะยืนจ้องและกดดันแบบนี้ โดยส่วนตัวผมแล้ว
เรื่องนี้ผมไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นัก แต่เรื่องการเสิร์ฟผักทำได้ไว
พอนั่งปุ๊บ เอาผักมาให้เลยแทบจะทันที
ถือว่าการเสิร์ฟผักเป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหารเวียดนามโดยทั่วไปเสียแล้ว
สำหรับเมนูที่เราสั่งไปวันนี้ ได้แก่
1.
บั๋นหอยหมู เหมือนหมูสับย่างรสชาติหวานโรยถั่วลิสง
ที่จัดจานเสิร์ฟมาพร้อมเส้นหมี่ขาวพันเป็นก้อน มีถ้วยน้ำจิ้มสีจัดจ้านรสชาติหวานอมเปรี้ยว
มีผักสลัดเป็นเครื่องเคียง จานนี้ประมาณ 100 บาทครับ รสชาติดี
ราคาถือว่าไม่ได้แพงมาก คะแนนรสชาติให้ 8.5/10 ความคุ้มค่าให้ 6/10 ผมว่าปริมาณที่ให้เมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าน้อยไปครับ
2.
หมูคลุกฝุ่น (ผมเรียกหมูทอดงา) เป็นหมู(น่าจะเป็นส่วนคอ)
ทอดกรอบคลุกด้วยข้าวคั่ว เสิร์ฟพร้อมกับแตงกวาและผักสลัด
คำแรกที่ได้ชิมรู้สึกว่าหมูมีกลิ่นสาปนิดหน่อย แต่พอกินๆไปเป็นจานที่รสชาติดี
ให้คะแนนที่ 9/10 ราคาเทียบเท่ากับจานแรก แต่ได้หมูมาเป็นชิ้น หั่นพร้อมรับประทาน รสชาติ
ปริมาณเมื่อเทียบกับราคาผมรับได้ ให้คะแนนความคุ้มค่าไปที่ 8.5/10 ยกให้เป็นเมนูแนะนำของร้านนี้ได้เลยนะครับ
3.
จบกันที่เมนูสุดท้าย
ได้แก่พระเอกของทุกร้านอาหารเวียดนาม แหนมเนืองนั่นเอง จานนี้เสิร์ฟช้าสุด
น่าจะเป็นเพราะขั้นตอนการจัดเครื่องเคียงน่าจะทำสด ทั้งอบแหนมเนืองให้อุ่นพร้อมทานด้วย
เลยทำให้พระเอกมาหลังสุดแต่น่าผิดหวังสุด ด้วยเนื้อแหนม แข็ง รสชาติไม่อร่อย
เหมือนหมูบดปั้นก้อนเอามาอบเฉยๆ เครื่องเคียงให้มาน้อย
แผ่นแป้งที่ยังไม่ได้แช่ยกมาพร้อมชามสำหรับแช่แผ่นแป้ง สำหรับผม
ถ้าผมยังรักที่จะแช่แป้งเอง ผมไปหาซื้อแหนมเนืองเจ้าอร่อยที่บรรจุกล่องขายแล้วเอามาทำเองดีกว่าไหม
จานนี้ราคา 130 บาท ผมถือว่ารสชาติไม่ผ่าน ไม่สามารถให้คะแนนได้
ความคุ่มค่าก็ยังแพงเมื่อเทียบกับปริมาณและราคาและที่สำคัญความอร่อยที่หาได้ยากอีกด้วย
สำหรับจานนี้ ผมให้ตก
โดยรวมแล้ว อาหารเวียดนามคาเฟ่ลาเมซอง ผมให้อยู่ในเกณฑ์ดี
ราคาไม่ได้ฟันหัวแบะแบบร้านในห้าง แต่รสชาติยังมีบางเมนูที่ต้องปรับปรุง
ราคาอาหารเมื่อรวมน้ำเปล่า(น้ำแร่ขวดเล็ก) 355 บาท ถือว่ารับได้ ตกเฉลี่ยเมนูละ
118 บาทเอง แถมบรรยากาศร้านดี น่านั่ง พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจให้บริการทุกคน
ห้องน้ำสะอาด(ผมไปเจิมมาแล้ว) แต่จะคิดเงินช้าไปหน่อย รวมๆแล้ว
ผมว่าควรแก่การไปนั่งนะครับ
ขอบคุณที่ติดตาม
INVISIBLESANE
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น